ไขข้อข้องใจกับสารพัดคำถามเกี่ยวกับ ‘ไนท์ครีม’
เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนที่อยู่ในช่วงเริ่มดูแลตัวเองคงมีความสงสัยกันว่าทำไมต้องทาไนท์ครีม (Night Cream) เป็นประจำทุกคืน ทั้ง ๆ ที่จะเข้านอนอยู่แล้ว และไม่ได้มีแพลนจะออกไปเจอแสงสียามราตรี รวมถึงต้องใช้อย่างไรให้เห็นผล วันนี้เราจะพามาไขข้อข้องใจทั้งหมดกัน
เหตุผลที่ทุกคนควรใช้ไนท์ครีม
ไนท์ครีมมีความหมายตรงตัวเลยก็คือครีมสำหรับบำรุงผิวพรรณช่วงกลางคืน ซึ่งสาเหตุที่เราควรใช้กับใบหน้าเป็นประจำมีดังนี้
- ช่วงกลางคืนเป็นช่วงที่ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ จึงสามารถซ่อมแซมส่วนสึกหรอได้ดีที่สุด เหมาะแก่การทาครีมเพื่อกระตุ้นการสร้างสิ่งจำเป็นสำหรับผิวหน้า
- แม้ก่อนนอนจะไม่มีแสงอาทิตย์แล้ว แต่ยังมีแสงไฟ แสงจากจอคอมพิวเตอร์ และแสงจากหน้าจอโทรศัพท์ที่ทำร้ายผิวได้เช่นกัน ดังนั้นไม่ควรมองข้ามการทาครีม
นานาประโยชน์จากไนท์ครีม
จริง ๆ แล้วประโยชน์จากไนท์ครีมไม่ต่างจากเดย์ครีมมากนัก อาทิ
- ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
- เติมความชุ่มชื้น
- ลดจุดด่างดำ เพิ่มความกระจ่างใส
- ทำให้ผิวเรียบเนียนและนุ่มละมุน
- คืนความแน่นกระชับ
- เติมอาหารให้ผิวและฟื้นบำรุงผิว
โดยในไนท์ครีมหนึ่งตัว อาจจะครอบคลุมประโยชน์ทั้งหมดหรือมีแค่บางประโยชน์ก็ได้
เดย์ครีม & ไนท์ครีมใช้แทนกันได้ไหม
ในเมื่อประโยชน์ไม่ต่างจากเดย์ครีม คำถามที่เกิดขึ้นต่อมาคือสามารถใช้ไนท์ครีมทั้งเช้าและก่อนนอนเลยได้หรือเปล่า? คำตอบคือ “ไม่ได้” เพราะถึงแม้ประโยชน์จะไม่ต่างกัน แต่ส่วนประกอบของครีมทั้งสองนั้นมีความแตกต่างกันอยู่
- ไนท์ครีมไม่ได้ผสมสารกันรังสียูวีแบบจัดเต็มอย่างเดย์ครีม
- ไนท์ครีมมีสารประกอบที่ค่อนข้างจะเข้มข้นกว่า ทำให้เนื้อครีมมีความหนัก หากทาช่วงเช้าจะทำให้หน้ามันเยิ้มระหว่างวัน
- ส่วนประกอบในไนท์ครีมบางชนิดเป็นสารไวต่อแสงแดด เช่น Alpha Hydroxy Acid (AHA) Beta Hydroxy Acid (BHA) Retinol เป็นต้น หากทาช่วงเช้าจะเสี่ยงผิวแดง ระคายเคือง ผิวไหม้ หรือคล้ำแดดได้ง่าย สังเกตได้ว่าไนท์ครีมหลายแบรนด์จะมีคำแนะนำให้ทาครีมกันแดดในช่วงเช้าด้วย
4 ขั้นตอนใช้ไนท์ครีมให้เห็นผล
แน่นอนว่าไนท์ครีมอุดมไปด้วยประโยชน์ แต่การจะให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้นจำเป็นต้องใช้อย่างถูกวิธี ด้วย 4 ขั้นตอนง่าย ๆ คือ
- ทำความสะอาดผิวหน้าเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกจากมลภาวะที่เจอมาตลอดทั้งวันด้วยคลีนซิ่งและโฟมล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิว
- ใช้เอสเซนส์หรือเซรั่มเพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงอย่างล้ำลึก
- ฟื้นบำรุงอย่างเต็มที่ด้วยไนท์ครีมตามสภาพผิว เช่น ชนิดครีมสำหรับคนผิวแห้ง ชนิดเจลสำหรับคนผิวมัน เป็นต้น รวมถึงใช้มาส์กหรือสครับประมาณสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไป
- และข้อสุดท้ายที่สำคัญมาก คือ ควรใช้คู่กับเดย์ครีมแบรนด์เดียวกันหรือในไลน์ผลิตเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ เพราะผู้ผลิตมักจะใส่ส่วนประกอบที่ทำงานเสริมกันไว้ในครีมทั้งสองชนิด เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับผิวหน้าของสาว ๆ
หวังว่าสารพัดคำตอบทั้งหมดนี้จะทำให้หลายคนเข้าใจเกี่ยวกับ ‘ไนท์ครีม’ กันมากขึ้น และหันมาดูแลผิวหน้ากันอย่างครบถ้วนทุกขั้นตอน แต่ถ้าไม่รู้จะเริ่มใช้แบรนด์ไหนดี เราขอแนะนำคลาแรงส์ (Clarins) แบรนด์คุณภาพพรีเมียมจากฝรั่งเศสที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมการดูแลผิวของผู้หญิงทั่วโลกด้วยสารสกัดจากธรรมชาติมานานกว่า 60 ปี